กรุงศรี จับมือ SPICYDISC ประกาศผล “From Waste to WOW” สุดยิ่งใหญ่บนเวที SX 2025 ปลุกพลังคนรุ่นใหม่ พลิกโฉมขยะสู่ประติมากรรมสุดว้าว

เสียงปรบมือดังกึกก้องบนเวที SX TALK STAGE ภายในงาน SUSTAINABILITY EXPO 2025 (SX2025) มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เมื่อธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท สไปร์ซซี่ ดิสก์ จำกัด ประกาศผลสุดยอดไอเดียสร้างสรรค์ในโครงการ “From Waste to WOW Sustainable Sculpture Contest 2025 by Krungsri” เวทีที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ อายุ 15-25 ปี ได้เปลี่ยนวัสดุเหลือใช้ให้กลายเป็นงานศิลปะอันทรงคุณค่า ผ่านการออกแบบ ‘ประติมากรรมน้องกล้วยกรุงศรี’ จากวัสดุรีไซเคิล ภายใต้แนวคิด “Go Sustainable with Krungsri ไปกับน้องกล้วย” เพื่อสร้างสมดุลและโลกที่ดีกว่า ท่ามกลางผลงานที่ส่งเข้าประกวดกว่า 120 ชิ้น

กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างพื้นที่ให้เยาวชนได้เชื่อมโยงศิลปะเข้ากับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตอกย้ำความมุ่งมั่นของกรุงศรีในการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น ‘ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน’ โดยคุณมิ่งขวัญ พัฒนวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารแบรนด์และการตลาดองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีร่วมสร้างโอกาส สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน เพื่อให้ทุกคนเห็นความสำคัญของความยั่งยืน” สอดคล้องกับ คุณณัฏฐมณี เลขวณิชกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารฝ่ายกิจกรรมการตลาดองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ที่เชื่อมั่นใน “พลังเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม โลกร้อน และร่วมสร้างสรรค์ออกแบบกระบวนการที่นำไปสู่ความยั่งยืน”

สุดยอดไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ที่คว้ารางวัล

หลังจากการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจาก 10 ทีมสุดท้าย ผลการตัดสินผู้ชนะเลิศชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 250,000 บาท  มีดังนี้

รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 70,000 บาท ได้แก่ ผลงาน “WE GO SUSTAINABLE” จากทีมนักศึกษา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่นำเสนอแนวคิดเรื่องความเปราะบางของธรรมชาติ โดยใช้วัสดุที่แข็งแรงและย่อยสลายยากอย่างกระป๋องและเศษโลหะ มาสร้างสรรค์เป็นรูปทรงลูกโป่งที่ดูบอบบาง เพื่อสื่อถึงการผสานและสร้างสิ่งที่เปราะบางให้คงอยู่ตลอดไป

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 50,000 บาท ได้แก่ ผลงาน “BANANA SPIN” จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังเช่นกัน โดยทีมได้ใช้เทคนิค Upcycle นำอะไหล่เครื่องยนต์ที่เสื่อมสภาพมาดัดแปลงเป็นประติมากรรมน้องกล้วย และเพิ่มความน่าสนใจด้วยการใช้พลังงานลมเป็นลูกเล่น สะท้อนถึงการจุดประกายความยั่งยืนในอนาคต

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 30,000 บาท ตกเป็นของผลงาน “น้องกล้วยติดไฟ แดนซ์ได้ทุกวัน” จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งสร้างสรรค์จากขยะที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวันอย่างเศษกระจกและหลอดน้ำดื่มที่รวบรวมจากร้านค้ารอบมหาวิทยาลัย เพื่อเน้นย้ำว่าการแยกขยะเป็นจุดเริ่มต้นง่ายๆ ที่ทุกคนทำได้

หลากหลายมุมมอง พลิกคุณค่าให้ขยะ

นอกเหนือจากทีมที่ได้รับรางวัล 10 ทีมสุดท้ายยังได้นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจและหลากหลาย  สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของคนรุ่นใหม่ในการตีความปัญหาสิ่งแวดล้อมผ่านงานศิลปะ อาทิ:

Banana Boots: ผลงานจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ที่นำขยะอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และคีย์บอร์ด มาสร้างสรรค์เป็นน้องกล้วย เพื่อย้ำว่าขยะไม่ใช่สิ่งไร้ค่า

น้องกล้วยใต้ท้องทะเล: จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ที่ได้แรงบันดาลใจจากสารคดีสัตว์น้ำ โดยใช้ขวดน้ำพลาสติกและลวดเป็นวัสดุหลัก

FAST FASHION WITH น้องกล้วยกรุงศรี: ผลงานจากมหาวิทยาลัยบูรพา ที่หยิบยกปัญหาขยะจากอุตสาหกรรมแฟชั่นที่เติบโตอย่างรวดเร็วมาเป็นแกนหลักของชิ้นงาน

LOVE WORLD WITH KRUNGSRI: ไอเดียสุดสร้างสรรค์จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา ที่นำบัตรเครดิตและบัตรต่างๆ ที่หมดอายุมาผลิตเป็นชิ้นงานโดยใช้เทคนิคเปเปอร์มาเช่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ผลงานที่ได้รับการคัดเลือกทั้งหมดจะถูกนำไปจัดแสดงในงาน SUSTAINABILITY EXPO 2025 (SX2025) ซึ่งเป็นมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนต่อไป

คุณวิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์ ศิลปินและนักออกแบบ หนึ่งในคณะกรรมการ ได้กล่าวถึงความสำคัญของโครงการนี้ว่า “ศิลปะการออกแบบเป็นส่วนหนึ่งของการมาร่วมแก้ไขปัญหาสังคม สร้างพลังเชิงบวกให้แก่นักออกแบบ ซึ่งเป็นต้นน้ำสำคัญของการผลิตงานออกแบบที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม”

ขณะที่คุณบอย ตรัย ภูมิรัตน ศิลปินและนักสะสมผลงานศิลปะ กล่าวทิ้งท้ายว่า “การสร้างฐานและสนับสนุนเยาวชน เป็นการจุดประกายงานออกแบบที่เริ่มต้นจากสิ่งใกล้ตัว สู่งานออกแบบที่ยั่งยืนในใจ ที่ร่วมสร้างสรรค์เพื่อส่วนรวม”

โครงการ “From Waste to WOW” ไม่เพียงแต่เป็นเวทีประกวดที่ประสบความสำเร็จ แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ ที่พร้อมจะเปลี่ยนปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กลายเป็นแรงบันดาลใจและโอกาส ความร่วมมือระหว่างกรุงศรีและ SPICYDISC ในครั้งนี้ได้จุดประกายให้เยาวชนเห็นคุณค่าของวัสดุเหลือใช้ และตอกย้ำว่าศิลปะสามารถเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง